ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ !!จำไว้ให้ขึ้นใจ "ข้อห้ามสำคัญ" ก่อนจะก้าวเข้าดินแดน "ป่าคำชะโนด" ไม่อยากเจอดีอย่าแม้แต่จะคิดฝ่าฝืน!! [Kroupdate]







เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวของ "ป่าคำชะโนด" ที่เรียกว่าเป็นดินแดนของพญานาค เดิมคนท้องถิ่มเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "วังนาคินทร์คำชะโนด" เพราะมีบ่อน้ำผุดขึ้นอยู่กลางดงชะโนด มีลักษณะเป็นบ่อน้ำเล็กๆ แต่กลับมีน้ำซึมออมมาตลอดเวลา ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พญานาคประทานมาให้ ซึ่งเชื่อว่าใครที่มาอธิฐานขอสิ่งที่ปราถนาหน้าบ่อน้ำแห่งนี้ก็จะได้ตามที่ประสงค์ หากแต่สิ่งที่ขอนั้นต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น บางคนก็นำน้ำในบ่อไปดื่มกินเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย แต่ความเชื่อและความศัทธามันไม่ได้เกิดกับทุกคน เพราะมีบางคนที่ได้หลบหลู่ โดยตักน้ำจากบ่อมาล้างเท้า จากที่จะหายป่วยกลับได้รับความทุกข์ทรมานมากกกว่าเดิม


ป่าคำชะโนด

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

ในส่วนของทางเข้าที่เชื่อกันว่ามีทางเดินที่เชื่อมจากโลกภายนอกกับผืนป่าอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไว้ด้วยรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร นอนเลื้อยยาวไปจนสุดทางเดินราว 300 เมตร เพื่อสะท้อนถึงพลังอำนาจและบารมีของพญานาครา  เมื่อเดินไปจนเกือบกึ่งกลางของทางเดิน เป็นจุดรอยแยกที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับบาดาล พบเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่ระหว่างรอยต่อของผืนน้ำและพื้นป่าคำชะโนด แม้ที่ผ่านมาจะพยายามซ่อมใหม่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเชื่อมให้ติดกันได้


ทางเข้า

จุดรอยแยกแบ่งดินแดง


แต่การที่ประชาชนจะเดินทางเข้าสู่ดินแดนพญานาคแห่งนี้มี "ข้อปฏิบัติและข้อห้าม" ของผู้ที่จะเข้าไปในป่าลี้ลับคำชะโนดแห่งนี้ คือ " ต้องไม่สวมหมวก แว่นตา กางร่ม ห้ามใส่รองเท้าทั่วทั้งบริเวณป่า และที่สำคัญห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ เข้าไปโดยเด็ดขาด" เพราะถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการดูหมิ่นผู้ปกปักรักษาผืนป่า ซึ่งในอดีตมีอีกหนึ่งข้อห้ามสำคัญในการจะเข้าไปในป่าคำชะโนด คือ "ห้ามใส่เสื้อสีแดง" ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หากใครที่ใส่เข้ามามักจะเกิดเหตุแปลกๆ จนทำให้อยู่ในบริเวณป่าแห่งนี้ไม่ได้  แต่พอได้ทำพิธีขอยกเว้นปัจจุบันจึงทำให้ใส่เข้ามาได้

ประชาชนหลั่งไหลเข้าไป






ส่วนตำนานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ป่าคำชะโนดที่เล่าขานสืบต่อกันมาก มีพญานาคอยู่สองตนได้ปกครองเมืองกระแสโดยครึ่งหนึ่งเป็นของ สุทโธนาค  ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นของ สุวรรณนาค ทั้งสองปกครองเมืองอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่มีข้อตกลงร่วมกันอยู่ว่า ถ้าเมื่อฝ่ายใดออกไปล่าสัตว์หาอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องไม่ไป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันและเมื่อฝ่ายที่ออกไปล่าสัตว์หาอาหารมาได้นั้น ให้นำมาแบ่งกันอย่างละครึ่ง  เมื่อสุทโธนาคออกไปล่าสัตว์ได้เนื้อช้างมา จึงนำเนื้อช้างที่ได้แบ่งให้สุวรรณนาค พร้อมทั้งนำขนของช้างไปยืนยันว่าเป็นเนื้อช้างจริง เมื่อถึงคราวที่สุวรรณนาคออกไปล่าสัตว์ครั้งนี้ได้เม่นมาเป็นอาหาร จึงได้นำเนื้อเม่น และขนของเม่นไปมอบให้แก่สุทโธนาคเหมือนเช่นเคย

ศาลพญาศรีสุทโธนาคราช
แต่สุทโธนาคกลับแสดงความไม่พอใจ เพราะเมื่อดูจากขนของเม่นที่มีขนาดใหญ่กว่าขนของช้าง ปริมาณเนื้อที่ได้ก็ควรมีมากกว่าเนื้อของช้าง แต่ปริมาณเนื้อนั้นกลับมีน้อยกว่ามากนัก จึงคิดว่าสุวรรณนาคไม่มีความซื่อสัตย์ ฝ่ายสุวรรณนาคพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่เป็นผล จึงเกิดสงครามระหว่างสุทโธนาค และสุวรรณนาค พอพระอินทร์ได้ทราบเรื่อง จึงหาวิธีการที่จะทำให้พญานาคทั้งสองนั้นหยุดทำสงครามกัน

รากต้นมะเดื่อ

โดยให้พญานาคทั้งสองสร้างแม่น้ำขึ้นคนละสาย ถ้าใครสร้างได้ถึงทะเลก่อนจะให้ปลาบึกขึ้นอยู่ในแม่น้ำนั้น  สุทโธนาคเป็นผู้ที่สร้างแม่น้ำได้เสร็จก่อน จึงมีปลาบึกขึ้นอยู่ในแม่น้ำโขงเพียงแห่งเดียว และเมื่อเป็นเช่นนั้น สุทโธนาคก็ได้ขอทางขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองมนุษย์ไว้อีก 3 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ คำชะโนด ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ให้กับสุทโธนาค พร้อมบริวารสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์และตั้งบ้านเมืองปกครองอยู่ที่คำชะโนด ในเวลาข้างขึ้น 15 วัน และอีก 15 วันข้างแรม ให้กลายเป็นนาคอาศัยอยู่เมืองบาดาล

รูปปั้นพญานาค
 
เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณให้การรับชม แต่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จะดีกว่า


ภาพจาก : pantip
ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia , palungdham









x

loading...


****************************************ปลาย******************************* เรียนทั้งหมดของผู้เข้าชมที่รัก! ผมขอบคุณมากสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน! ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อหาเนื้อหาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดสำหรับทุกท่าน! กรุณามีความโชคดี! จาก Kroupdate!!! :) *************************************************
The legendary land of the sacred forest, Chaiton, the story continues. There are two serpents, the city is governed by half of Sutthanak, while the other half is Suwanna. But there is a mutual agreement. If any party go out hunting for food. The other party must not go. Because of the fear of wounding, and when the hunting party went out to eat it. To be divided in half. When Sathon Nok went out to hunt for the elephant meat. The elephant meat was divided into Suwan Naga. Along with elephant hair to confirm that the elephant is true. When Suwan Naga came out to hunt for this time, the hedgehog came to feed. Hedgehog meat. And the hedgehog's hair was given to Suthothana as always.

Post a Comment